เพราะแบบนี้ ถึงได้มีพุง!

 

 

 

 

                                        เพราะแบบนี้ ถึงได้มีพุง!

 

 

                             41607652 - woman eats sweets at night to sneak in a refrigerator

 

 

เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใส่ใจดูแลอยู่เสมอ โดยเฉพาะในสาว ที่ต้องการดูแลรูปร่างให้สวยเพรียว โดยการหมั่นพยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วนอยู่ตลอดเวลา แต่กระนั้น บางพฤติกรรมที่คุณทำอยู่อาจจะยังเป็นไปในทางที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดนัก เพราะมันอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคได้อย่างไม่

 

มาดูกันว่าพฤติกรรมแบบไหนที่ก่อให้เกิดพุง

 

2

 

ไม่กินมื้อเช้า

 

    การงดมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างพลังงานและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สมองไม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย และยังไปเพิ่มความหิวจนเรา กินหนักขึ้นในมื้อถัดไป กลายเป็นว่าอ้วนกว่าเดิม

 

young  girl on diet eating spoon

 

กินใกล้เวลานอน

 

    เพราะร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารในกระเพาะและลำไส้เล็กประมาณ 2-3 ชั่วโมง หากกินปุ๊บแล้วนอนปั๊บ ร่างกายของเราก็จะปรับโหมดเข้าสู่การพักผ่อน ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง และเกิดการสะสมพลังงานในรูปแบบไขมันมากยิ่งขึ้น

 

4

 

อดอาหารลดความอ้วน

 

  การอดอาหารช่วยให้น้ำหนักลดลงแค่เพียงชั่วคราวและยังเสี่ยงที่น้ำหนักจะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง หรือที่เรียกว่าภาวะ “โยโย่ เอฟเฟค” เพราะการอดอาหารจะทำให้ร่างกายปรับตัวให้ใช้พลังงานน้อยลง และเมื่อกินอาหารเข้ามาอีกก็จะเกิดการสะสม

 

555

กินไปด้วยทำอย่างอื่นไปด้วย

 

     ทำงานไปก็หยิบขนมเข้าปากไป ดูละครไปก็หยิบป๊อปคอร์น กินไปด้วยแบบนี้เตรียมตัวไว้ได้เลยไขมันกำลังจะมาแน่นอน เพราะปกติเรามักจะมุ่งความสนใจไปที่กิจกรรมหลักที่กำลังทำ โดยมีการกินเป็นกำลังเสริมที่เราลืมนึกถึง เพลินๆ แบบนี้จะไม่ไห้อ้วนได้ยังไงไหว

 

6

น้ำตาลใกล้คน ใครเล่าจะทนได้

 

   น้ำตาลในที่นี้รวมถึงอาหารจำพวกแป้งด้วย เพราะน้ำตาลที่เหลือใช้จะแปรเปลี่ยนเป็นไขมัน อาหารรอบตัวเราก็เต็มไปด้วยน้ำตาลและแป้ง พลิกฉลากหรือตารางข้อมูลโภชนาการดูได้ง่ายๆ ขนาดน้ำผลไม้ที่ว่าเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ยังมีน้ำตาลเฉลี่ยอยู่ที่ 15 กรัม! แล้วแต่ละวันเราดื่มแค่น้ำผลไม้ซะที่ไหน

 

 

                                                                                            ที่มา : http://www.thaihealth.or.th

                                                                                                   ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต